ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเป็น “สีเขียว” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อการทำงานทั่วโลก ประเทศไทยซึ่งมีผู้คนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่งของกระแสนี้เช่นกัน หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจและมีประโยชน์ที่ร้านค้าและผู้คนในไทยกำลังช่วยกันทำคือการรีไซเคิลตลับหมึกเก่า ที่นี่เราขอแนะนำ Bsunink แบรนด์ชั้นนำที่นำตลับหมึกและตลับโทนเนอร์ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ตลับหมึกหมดปลอดภัยทิ้งยังไง: วิธีกำจัดตลับหมึกเก่าในประเทศไทย
แหล่งรับตลับหมึกเก่า: ทองคำในสำนักงานที่คุณมองข้าม
ลองนึกภาพการทิ้งตลับหมึกเก่าที่ดูไร้ค่า แล้วพบว่ามันสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังได้เงินคืน นั่นคือสิ่งที่ Bsunink กำลังทำ พวกเขามีวิธีง่ายๆ ในการรีไซเคิลตลับหมึกเหล่านี้ ช่วยลดปัญหาขยะและประหยัดทรัพยากร
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นตลับหมึกพิมพ์เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยประเทศไทยผลิต มากกว่า 400,000 ตันต่อปี แต่มีเพียง不到 20% ที่ถูกรีไซเคิลอย่างถูกต้อง นี่คือโอกาสใหญ่สำหรับร้านค้าและบ้านเราที่จะทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น
เหตุผลที่คุณควรรีไซเคิลตลับหมึก
ตลับหมึกเก่าไม่ใช่แค่ขยะธรรมดา มันประกอบด้วยพลาสติก โลหะ และหมึกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หากทิ้งในขยะทั่วไป วัสดุเหล่านี้อาจใช้เวลา ถึง 1,000 ปีในการย่อยสลาย และปล่อยสารพิษสู่ดินและน้ำ แต่การรีไซเคิลหนึ่งตลับสามารถช่วยประหยัด:
| สิ่งที่ประหยัดได้ | ผลดีที่เกิดขึ้น | 
|---|---|
| น้ำมัน 3.5 ออนซ์ | ลดความต้องการน้ำมันใหม่ | 
| พลาสติก 2.5 ปอนด์ | ลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ 80% | 
| การใช้น้ำ | รักษาความสะอาดของน้ำในไทย | 
วิธีที่ Bsunink เป็นผู้นำ
Bsunink ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ—เหมือนผึ้งที่เก็บน้ำหวาน กระบวนการของพวกเขาง่ายแต่ได้ผล:
- รวบรวม: พวกเขารับตลับหมึกเก่าทุกยี่ห้อ ไม่ต้องแยกประเภท
 - นำกลับมาใช้ใหม่: ทำความสะอาด เติมหมึก หรือแยกชิ้นส่วนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ทำให้ใช้งานได้นานขึ้น
 - จ่ายเงิน: พวกเขาจ่ายเงินให้คุณอย่างเป็นธรรม ช่วยทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
 
สำหรับธุรกิจขนาดกลาง นี่เป็นประโยชน์อย่างมาก สำนักงานมักปล่อยให้ตลับหมึกเก่าสะสมโดยไม่เห็นคุณค่า ด้วยการร่วมมือกับ Bsunink บริษัทสามารถจัดการขยะได้ดีขึ้นและเสริมภาพลักษณ์สีเขียว—ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยต้องการมากขึ้น
ภาพรวม: แนวโน้มสีเขียวของไทย
รัฐบาลไทยตั้งเป้ารีไซเคิลขยะ 50% ภายในปี 2030 ตาม แผนเศรษฐกิจหมุนเวียน แบรนด์อย่าง Bsunink ไม่เพียงแต่เข้าร่วม แต่ยังช่วยเร่งกระบวนการนี้ ความพยายามของพวกเขาสอดคล้องกับแนวโน้มโลก ซึ่งตลาดตลับหมึกรีไซเคิลคาดว่าจะเติบโตปีละ 6%
และไม่ใช่แค่ตัวเลขเท่านั้น Bsunink ยังช่วยสร้างงานในศูนย์รีไซเคิลท้องถิ่น—อุตสาหกรรมที่สร้างงานในพื้นที่เช่น ชลบุรี และ ระยอง
วิธีที่คุณสามารถร่วมมือ
การเข้าร่วมเป็นเรื่องง่ายมาก:
- บุคคลทั่วไป: รวบรวมตลับหมึกเก่าจากเครื่องพิมพ์ที่บ้านหรือที่ทำงาน แม้เพียง 5-10 ชิ้นก็สร้างความแตกต่างได้
 - ร้านค้า: จัดจุดรับตลับหมึกเก่าและให้ Bsunink มารับเป็นจำนวนมาก
 - โรงเรียน/องค์กร: เปลี่ยนการรีไซเคิลเป็นกิจกรรมระดมทุน—ทุกเล็กน้อยมีค่า
 
สิ่งที่ดีที่สุดคือไม่มีข้อเสีย ไม่ว่าจะเพื่อเงินหรือสิ่งแวดล้อม การรีไซเคิลตลับหมึกคือทางเลือกที่ดี
เรียกร้องให้ลงมือ: ขยะน้อยลง ผลประโยชน์มากขึ้น
เมื่อคำนึงถึงเป้าหมายสีเขียวของไทยแล้ว ตลับหมึกเก่าไม่ใช่แค่ขยะ—มันคือทรัพยากรที่รอการใช้งาน ด้วยความช่วยเหลือจาก Bsunink บ้านเรือนและธุรกิจไทยสามารถเปลี่ยนขยะเป็นเงินและช่วยสร้างอนาคตที่สะอาดขึ้น
ดังนั้น ก่อนทิ้งตลับหมึกเก่า ลองคิดอีกครั้ง ขั้นเล็กๆ นี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของไทยที่เขียวขึ้น
 